พาณิชย์ป่วน “เหล็กไทย” ช็อก

อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศถึงกับช็อก เมื่อกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้ยุติมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็ก หวั่นอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศเสียศูนย์และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ วอนรัฐทบทวนต่ออายุมาตรการ
โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้ประกาศว่าคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดฯ ซึ่งมี รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2566 มีมติให้ยุติมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด หรือ Anti-Dumping (AD) สินค้าเหล็กจากประเทศทุ่มตลาดใหญ่ของโลก ได้แก่ เหล็กแผ่นรีดร้อนจากตุรกี บราซิล อิหร่าน และเหล็กแผ่นรีดเย็นเคลือบโลหะเจือของอะลูมิเนียม (GL) จากเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตเหล็กใหญ่สุดอันดับ 8, 9, 10 และ 13 ของโลกตามลำดับ
นางสาวกรรณิการ์ ยมจินดา นายกสมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อน กล่าวว่า รู้สึกกังวลใจกับผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน กระทรวงพาณิชย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากข้อมูลที่ยื่นต่อกรมการค้าต่างประเทศ พบว่าทั้ง 3 ประเทศคือ ตุรกี บราซิล และอิหร่าน ยังคงมีพฤติกรรมการทุ่มตลาดโดยยังคงมีการบังคับใช้ของประเทศต่างๆทั่วโลก อีกทั้งยังมีกำลังการผลิตส่วนเหลืออีกเป็นจำนวนมากกว่า 13 ล้านตัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเพิ่มปริมาณการส่งออก รวมถึงกลับมาทุ่มตลาด และสร้างความเสียหายแก่ผู้ผลิตในประเทศไทยได้ ซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมายและเคยใช้ในการพิจารณาต่ออายุมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดเสมอมา สำหรับการนำเข้าที่ลดลงเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับประเทศทั่วโลกที่มีการใช้มาตรการ AD และไม่ได้เป็นเหตุให้พิจารณายุติมาตรการ ดังเช่นที่ประเทศไทยยังคงถูกสหรัฐอเมริกาใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนมาเกือบ 20 ปีทั้งๆที่ไม่มีการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา และประเทศข้างเคียงมาเกือบ 10 ปีแล้ว
นอกจากมาตรการ AD 3 ประเทศนี้แล้ว ขณะนี้ยังมีมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจากประเทศคือจีนและมาเลเซีย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงพาณิชย์ด้วย โดยจีนเป็นประเทศผู้ผลิตเหล็กใหญ่ที่สุดของโลก และมาเลเซียเป็นประเทศผู้ผลิตเหล็กใหญ่อันดับ 19 ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนซึ่งมีการผลิตเหล็กคิดเป็นสัดส่วน 54% ของทั้งโลก และเป็นประเทศที่มีพฤติกรรมทุ่มตลาดสินค้าเหล็กอย่างรุนแรงจนถูกบังคับใช้มาตรการ AD จากทั่วโลก เนื่องจากมีทั้งพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรม และมีความสามารถในการส่งออกสินค้าทุ่มตลาดไปทั่วโลก ซึ่งสมาคมฯคาดหวังว่ากระทรวงพาณิชย์จะไม่ยุติมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจากจีน และมาเลเซีย ดังเช่นกรณีประเทศตุรกี บราซิล อิหร่าน ที่มีร่างผลออกมาแล้วนี้
“สมาคมฯขอวอนให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาทบทวนผลการพิจารณาต่ออายุการบังคับใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กทั้ง 2 กรณี จากประเทศจีน มาเลเซีย ตุรกี บราซิล และอิหร่าน มิฉะนั้นการทุ่มตลาด และความเสียหายฟื้นคืนมาอย่างแน่นอน”
 
 

Comments

More Events