เหล็กไทยยังไปโลดสวนโควิด รัฐหนุนเมดอินไทยแลนด์ดันอุตสาหกรรมคึกคัก
กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ชี้ความต้องการใช้เหล็กของประเทศไทยเติบโตขึ้นเช่นเดียวกับทิศทางตลาดโลก ราคาเหล็กในภูมิภาคเอเชียผ่านจุดสูงสุดแล้วและปรับอ่อนลง ผู้ผลิตเหล็กในไทยร่วมโครงการ “Made in Thailand” กว่าพันรายการสินค้าผลิตป้อนการจัดซื้อจัดจ้างและก่อสร้างภาครัฐ
นายนาวา จันทนสุรคน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ครึ่งแรกของปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) ความต้องการใช้เหล็กในภูมิภาคต่างๆของโลกและประเทศไทยมีการปรับตัวในทิศทางบวก แม้ส่วนใหญ่ยังเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับประเทศจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้ใช้เหล็กอันดับหนึ่งของโลก ในครึ่งแรกของปี 2564 ยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึง 12.7% ปริมาณความ ต้องการใช้เหล็ก 537.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของการผลิตรถยนต์ (เพิ่ม 26.4%) การต่อเรือ (เพิ่ม 19.1%) การลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (เพิ่ม 15.0%) คาดว่าทั้งปี จีนน่าจะมีการใช้เหล็ก รวมทั้งสิ้น 1,085 ล้านตัน การส่งออกสินค้าเหล็กจากจีน ครึ่งแรกของปีมีปริมาณสูงถึง 37.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 30.2% จนรัฐบาลจีนต้อง ชะลอด้วยการยกเลิกการคืนภาษีส่งออก (Rebate Tax) สินค้าเหล็กส่วนใหญ่ เพื่อให้มั่นใจว่ามีเหล็กพอเพียงรองรับการเติบโตภายในประเทศ ดังนั้นปริมาณสินค้าเหล็กส่งออกจากจีนในครึ่งหลังของปีจะถดถอยลง